รายงานผลการพัฒนาการอ่านและเขียนจับใจความสำคัญโดยใช้บทอาขยาน
รายงานผลการพัฒนาการอ่านและเขียนจับใจความสำคัญโดยใช้บทอาขยาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนกันทราราม (นุ่นศึกษาคาร) อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555
รายงานผลการพัฒนาการอ่านและเขียนจับใจความสำคัญโดยใช้บทอาขยาน
ชื่อเรื่อง การพัฒนาอ่านและเขียนจับใจความสำคัญโดยใช้บทอาขยาน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 3โรงเรียนกันทราราม(นุ่นศึกษาคาร) อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์
ผู้รายงาน นางนารี สัชชานนท์
หน่วยงานที่สังกัด โรงเรียนกันทราราม(นุ่นศึกษาคาร) อำเภอปราสาท
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3
ปีที่รายงาน 2554
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านและเขียนจับใจความสำคัญโดยใช้บทอาขยาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/802)เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านและเขียนจับใจความสำคัญโดยใช้บทอาขยาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3)เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ โดยการใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านและเขียนจับใจความสำคัญโดยใช้บทอาขยาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 4)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านและเขียนจับใจความสำคัญโดยใช้บทอาขยาน
กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนกันทราราม(นุ่นศึกษาคาร) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์ เขต 3 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 25 คน ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 โดยการเลือกแบบเจาะจง การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองโดยใช้รูปแบบการวิจัยที่มีกลุ่มทดลอง กลุ่มเดียว ดำเนินการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน(One Group Pretest Posttest Control Group Design)
หลังเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนจับใจความสำคัญโดยใช้บทอาขยาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนจับใจความสำคัญโดยใช้บทอาขยาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยสร้างและพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ 80.18/82.46 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ผู้วิจัยได้ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านและเขียนจับใจความสำคัญของนักเรียนโดยใช้บทอาขยานกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนเรียน เมื่อเปรียบเทียบโดยใช้ค่าสถิติ t (t-dependent) พบว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกการอ่านและเขียนจับใจความสำคัญ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 3 พบว่า ในภาพรวมนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( =4.49 ,S =0.22) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและเขียนจับใจความสำคัญอยู่ในระดับมากที่สุด จำนวน 5 ข้อ คือ เนื้อหามีความเหมาะสมกับเวลา , ผู้สอนเป็นกันเองกับนักเรียน ,สมาชิกในกลุ่มให้ความร่วมมือ , สื่อการเรียนการสอนแปลกใหม่ ทันสมัย เหมาะสมกับเนื้อหา และสื่อการเรียนการสอนดึงดูดความสนใจ ในส่วนของประเด็นอื่น ๆ มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก จำนวน 7 ข้อ คือ เนื้อหาเข้าใจง่ายและน่าสนใจ , การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เหมาะสมกับเวลา , นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน , ครูใช้หลักเกณฑ์การประเมินผลที่มีความเป็นธรรม , นักเรียนมีส่วนร่วมในการประเมิน ,นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะในเรื่องการอ่านจับใจความสำคัญมากขึ้นและพื้นฐานในการเรียนรู้วิชาอื่นได้ นักเรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ และพบว่า ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในภาพรวมเท่ากับ 0.22 ซึ่งมีค่าเข้าใกล้ศูนย์ (0) แสดงให้เห็นว่านักเรียนมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน
ป้ายกำกับ:
บทอาขยาน,
ประถมศึกษา
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)